เมื่ออายุมากขึ้น อวัยวะทุกอย่างก็เสื่อมลง โดยเฉพาะวัย 50+ มักจะมีโรคเรื้อรังอย่างน้อยหนึ่งโรค และจำนวนไม่น้อยที่มีโรคเรื้อรังหลายโรค การดูแลทางทันตกรรมในผู้ป่วยวัยนี้ นอกจากจะต้องคำนึงถึงสุขภาพช่องปากที่มีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติแล้ว ยังต้องคำนึงถึงภาวะแทรกซ้อนจากยาและการรักษาอื่น ๆ อีกด้วย
ดังนั้นในการรักษาทางทันตกรรมในวัย 50 + จึงจำเป็นต้องมีการใส่ใจในทุกขั้นตอนการรักษา และคำนึงถึงภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเข้าและหลังรับการรักษาทางทันตกรรมด้วย โดยต้องมีการประเมินสุขภาพแบบองค์รวม มีการปรึกษาร่วมกันระหว่างทันตแพทย์กับแพทย์ผู้รักษาโรคประจำตัวควบคู่กันไป
นอกเหนือจากประวัติทางทันตกรรมแล้ว หากทราบชื่อโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ด้วยก็จะยิ่งเป็นประโยชน์สำหรับวัย 50+ เพื่อให้ทันตแพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะทำการรักษา
3 กลุ่มโรคประจำตัวที่ควรแจ้งทันตแพทย์ก่อนเข้าทำการรักษา

1. กลุ่มโรคที่เลือดออกง่ายและหยุดไหลยาก¹
- โรคเกล็ดเลือดต่ำ หรือโรคลูคีเมีย (Leukemia) อาจมีจ้ำเลือดหรือจุดเลือดออกตามร่างกายร่วมด้วย
- โรคไตและผู้ที่มีประวัติเคยล้างไต เพราะจะได้รับยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่มีประวัติการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ และการใช้ยาละลายลิ่มเลือด
ทั้งนี้ ผู้ที่รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น ยาละลายลิ่มเลือด อาจส่งผลให้การห้ามเลือดทำได้ยากเมื่อเกิดบาดแผล จึงจำเป็นต้องรับการเจาะเลือดเพื่อตรวจดูค่าเวลาการหยุดเลือด เพราะฉะนั้นหากมีประวัติเป็นกลุ่มโรคดังกล่าวควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบก่อนเริ่มรับการรักษา

2. กลุ่มโรคที่อาจเกิดอาการได้ในระหว่างทำฟัน¹
- โรคหอบหืด อาจมีอาการหอบเหนื่อย และต้องมียาพ่น หรือได้รับยาสเตียรอยด์
- โรคลมชัก
- โรคความดันโลหิตสูง จะต้องวัดความดันโลหิตก่อนเสมอเพื่อให้สามารถควบคุมความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดก็จะสามารถเข้ารับการถอนฟันได้²
- โรคหัวใจ เพราะอาจมีอาการเจ็บหน้าอก หอบเหนื่อย ใจสั่น ระหว่างทำฟัน ซึ่งผู้ป่วยโรคหัวใจจำเป็นจะต้องได้รับการเอาใจใส่และระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะการติดเชื้อมากกว่าคนไข้ทั่วไป เนื่องจากมีสภาพความผิดปกติของอวัยวะของหัวใจและเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจบางส่วน³

3. กลุ่มโรคเบาหวานที่กระทบต่อการเกิดแผล¹
โรคเบาหวาน โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี เมื่อเกิดบาดแผลจะหายช้า และมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เพราะฉะนั้นก่อนทำฟัน ทันตแพทย์จะต้องปรึกษาแพทย์ประจำตัวของคนไข้เพื่อประเมินความรุนแรงของโรคที่เป็นอยู่และความจำเป็นในการเตรียมตัวของผู้เข้ารับการรักษาทางทันตกรรมเป็นพิเศษ
การที่เราแจ้งทันตแพทย์ก่อนทำฟันว่ามีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาอะไรเป็นประจำ จะช่วยให้ทันตแพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะตามมาภายหลังการรักษา
ทั้งนี้ วัย 50+ ควรได้รับการดูแลสุขภาพในช่องปาก และพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ก็จะสามารถมีสุขภาพช่องปากที่ดีได้เหมือนที่เคยเป็นในครั้งวัยหนุ่มสาว ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตของวัย 50+ นั่นเอง
เรียบเรียงโดย : จีเอสเค
เอกสารอ้างอิง:
1. https://www.phyathai.com/th/article/1909-8_%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2___%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97 (22 Apr 2025)
2. Hypertension. (n.d.-b). American Dental Association. https://www.ada.org/resources/ada-library/oral-health-topics/hypertension (25 Apr 2025)
3. โรคหัวใจติดเชื้อ รู้ทัน ป้องกัน รักษาได้. (n.d.-b). NAKORNTHON Hospital. https://www.nakornthon.com/article/detail/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD-%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89 (25 Apr 2025)
NP-TH-NA-WCNT-250007 | APR 2025