line
เมนู
ไลฟ์สไตล์

สองเท้าต้องเทคแคร์ แชร์ท่าบริหารเท้าเบาหวาน

ขยับวันละนิด พิชิตภาวะแทรกซ้อน
แชร์บทความนี้
line
line
line

วัย 50+ ที่เป็นผู้ป่วยเบาหวานมักจะกลัวภาวะแทรกซ้อนเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นภาวะแทรกซ้อนทางตา ไต และเท้า ว่าแต่เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมผู้ป่วยเบาหวานต้องดูแลเท้าเป็นพิเศษ?

เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานมักมีภาวะเส้นประสาทส่วนปลายอักเสบ ซึ่งเกิดจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไป ซึ่งส่งผลให้เกิดการทำลายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงเส้นประสาทและเกิดการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในเลือด ทำให้มีอาการชาเท้า จนสูญเสียความรู้สึกที่ปลายเท้าได้ ซึ่งหากไม่ระวังจะทำให้เกิดแผลโดยไม่รู้ตัวเนื่องจากผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บ เมื่อผู้ยังคงใช้เท้าเดินลงน้ำหนักตามปกติต่อไป จะทำให้แผลถูกเหยียบซ้ำตลอดเวลาและไม่สามารถหายขาดได้

อีกทั้งการเป็นเบาหวานทำให้แผลนั้นหายยากกว่าธรรมดาอยู่แล้วและหากปล่อยทิ้งไว้จะนำไปสู่การติดเชื้อที่รุนแรงจนมีโอกาสถูกตัดเท้าได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว ในปัจจุบันมีหลายงานวิจัยที่พบว่า การมีความรู้เรื่องการดูแลเท้าที่ถูกวิธีจะช่วยป้องกันการเกิดแผล รวมไปถึงลดความรุนแรงของแผลที่เท้าและลดความเสี่ยงในการถูกตัดเท้าได้

วิธีการดูแลเท้าสำหรับผู้เป็นเบาหวาน เพื่อป้องกันการเกิดแผลที่เท้า

- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- มาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสำรวจและตรวจเท้า
- หลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้าง เนื่องจากอาจกดทับเส้นประสาทที่บริเวณเข่าได้
- ห้ามสูบบุหรี่
- หากพบว่ามีแผลแม้เพียงเล็กน้อย ให้ทำความสะอาดทันทีและควรรีบมาพบแพทย์

การสำรวจเท้าสำหรับผู้เป็นเบาหวาน

- สำรวจเท้าตนเองทุกวัน โดยสำรวจอย่างละเอียดทั้งบริเวณหลังเท้า ฝ่าเท้า ส้นเท้า และระหว่างซอกนิ้วทุกๆนิ้ว ว่ามีรอยแดงที่ผิดปกติ รอยแผลถลอก บาดแผล หนังด้านแข็ง รอยแตก การติดเชื้อรา หรือสิ่งผิดปกติที่อาจมีอยู่ใต้ฝ่าเท้าโดยที่เราไม่ทราบหรือไม่มีอาการเจ็บมาก่อนหรือไม่
- หากไม่สามารถก้มสำรวจเท้าได้เอง ควรใช้กระจกสะท้อนส่องดู
- หากมีปัญหาเรื่องการมองเห็นควรให้ญาติหรือผู้ใกล้ชิดสำรวจเท้าแทน
- หากมีหนังด้านแห้ง หูด ตาปลา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษา ไม่ควรตัดหรือใช้สารเคมีลอกด้วยตนเอง

มาออกกำลังกายเท้ากันเถอะ

ควรออกกำลังกายเท้าอย่างสม่ำเสมอทุกวัน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และกระตุ้นการไหลเวียนเลือดมาปลายเท้า อย่างน้อยวันละ 3 รอบ รอบละ 10 ครั้ง

- กระดกข้อเท้าขึ้นลงสลับกัน
- หมุนข้อเท้า โดยหมุนเข้าและออกสลับกัน
- ใช้นิ้วเท้าจิกผ้าที่วางอยู่บนพื้นเพื่อบริหารกล้ามเนื้อเล็ก ๆ ในเท้า
- นั่งบนเก้าอี้ ยกขาขึ้น เหยียดเข่าตึง และกระดกข้อเท้าขึ้นค้างไว้นับ 1 ถึง 10 นับเป็น 1 ครั้ง

การดูแลเท้าในผู้ป่วยเบาหวานไม่ยากอย่างที่คิด ควรทำตามคำแนะนำข้างต้นอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดแผลที่เท้าและการสูญเสียเท้า แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมไปถึงการดูแลเรื่องอาหาร การออกกำลังกายและใช้ยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้

เอกสารอ้างอิง: โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์. (2567, พฤศจิกายน, 7) ดูแลเท้าอย่างไรเมื่อเป็นเบาหวาน. (2568, สิงหาคม, 24)
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/456

Non-Promotional Material

GSK ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของท่านและเราให้คำมั่นสัญญาว่าเราจะจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยความระมัดระวัง
หากท่านต้องการทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บ และวิธีการที่เราเก็บข้อมูลเหล่านั้น ท่านสามารถศึกษาได้จาก ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว