เมื่อก้าวเข้าสู่วัย 50+ แน่นอนว่ามาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งทางสมอง ทางอารมณ์ และทางร่างกายที่อาจถดถอยไม่เหมือนวัยหนุ่มสาว ซึ่งเมื่อร่างกายทำงานเสื่อมลง ก็เปิดทางให้โรคต่าง ๆ เข้ามาได้ง่าย ถึงแม้จะดูแลตัวเองดีขนาดไหน แต่เรื่องการเจ็บป่วยของวัยนี้อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นการป้องกันและการสังเกตอาการตั้งแต่เนิ่น ๆ คือสิ่งสำคัญเพื่อนำไปสู่การรักษาที่ทันท่วงที และสามารถลดความรุนแรงของโรคได้¹ โดยโรคในวัย 50+ นั้นมีมากมาย แต่มีอยู่ 7 โรคที่ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่
1. โรคไข้หวัดใหญ่
โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส Influenza สามารถพบได้เกือบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว² สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ง่าย ผ่านการไอ จาม หรือสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อ โดยทั่วไปมักมีอาการไม่รุนแรง เช่น มีไข้สูง ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล หรือปวดเมื่อยตามตัว และมักหายภายใน 5-7 วันหลังจากเริ่มมีอาการ³˒²⁶
2. โรคงูสวัด
เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกันกับอีสุกอีใส หลังจากการติดเชื้ออีสุกอีใส แม้ว่าอาการของโรคจะหายไปแล้ว แต่เชื้อไวรัสจะหลบซ่อนอยู่ที่ปมประสาท แสดงอาการเป็นโรคงูสวัดเมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติ ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคงูสวัด⁴ ได้แก่ วัย 50+ ผู้ที่มีโรคประจำตัว²⁴ รวมถึงผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ²⁵
โรคงูสวัดยังมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น หากมีผื่นงูสวัดบริเวณใบหน้า อาจทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก โรคหลอดเลือดสมอง หากผื่นงูสวัดขึ้นตา อาจทำให้ตาบอดได้⁴˒⁵
3. โรคปอดอักเสบจากไวรัส RSV
วัย 50+ ที่มีโรคประจำตัวมีโอกาสติดเชื้อ RSV และมีความรุนแรงของโรคสูง⁶ โดยการระบาดของเชื้อนี้มักพบในฤดูฝนและต้นฤดูหนาวในประเทศไทย⁷ โดยมากแล้ว RSV จะมีอาการเหมือนไข้หวัดทั่วไปคือ ไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล แต่หากการดำเนินโรครุนแรงมากขึ้นเป็นลุกลามทางเดินหายใจส่วนล่าง อาจจะมีอาการของภาวะหลอดลมอักเสบ ปอดบวมหรือปอดอักเสบ⁸ และนอกจากนี้ RSV อาจทำให้เกิดภาวะหายใจล้มเหลวได้⁹
4. โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอคคัส
สามารถติดต่อได้โดยตรงจากการสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ¹⁰ การติดเชื้อนี้กระทบกับอวัยวะได้หลายส่วน เช่น หูชั้นกลาง (หูชั้นกลางอักเสบ) ไซนัส (ไซนัสอักเสบ) ปอด (ปอดอักเสบ) การติดเชื้อในกระแสเลือด และบริเวณสมอง (เยื่อหุ้มสมองอักเสบ) ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะวิกฤตหรือเสียชีวิตได้¹¹
5. โรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน
คอตีบ เป็นโรคติดต่อที่ทำให้เกิดการตีบตันของระบบทางเดินหายใจ อาจส่งผลให้ เส้นประสาทอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และในกรณีที่รุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิต¹²
บาดทะยัก โรคติดต่อเชื้อจากเชื้อแบคทีเรีย มีผลต่อระบบประสาท และกล้ามเนื้อทั่วร่างกายหดเกร็ง¹³ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการขากรรไกรค้าง ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถอ้าปาก กลืน หรือหายใจได้¹⁴
ไอกรน เป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจจากแบคทีเรีย ทำให้เกิดอาการไอรุนแรงที่ควบคุมไม่ได้ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไอกรนสามารถมีอาการข้างเคียงรุนแรงได้ เช่น ภาวะปอดอักเสบ¹⁵
6. โรคไวรัสตับอักเสบบี
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี โดยมีอาการตับอักเสบฉับพลัน เช่นไข้ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย รับประทานอาหารไม่ได้ อาจมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง หรือดีซ่าน สำหรับผู้ป่วยที่มีการทำงานของตับบกพร่องอยู่ก่อน อาจมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นตับวายได้ หรือ ทำให้ตับอักเสบเรื้อรังได้ มากไปกว่านั้น ยังนำไปสู่ความเสี่ยงในการเป็นโรคตับแข็ง และมะเร็งตับในอนาคต¹⁶
7. โรคหัด คางทูม และหัดเยอรมัน
โรคหัด เกิดจากเชื้อไวรัสหัด ทําให้มีไข้สูง นํ้ามูกไหล ไอ ภาวะเยื่อบุตาอักเสบ และมักมีอาการไข้ออกผื่น ตามมาภายใน 3-5 วัน หากมีอาการรุนแรงมากอาจจะมีอาการของโรคปอดอักเสบและไข้สมองอักเสบได้¹⁷
โรคคางทูม เกิดจากเชื้อไวรัสคางทูม ทําให้มีไข้ ต่อมนํ้าลายอักเสบ อาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน เช่น ตับอ่อนอักเสบ และอัณฑะอักเสบ¹⁸
โรคหัดเยอรมัน เกิดจากเชื้อไวรัสหัดเยอรมัน ทําให้มีไข้ ผื่น ต่อมนํ้าเหลืองโต ส่วนใหญ่อาการมักไม่รุนแรง¹⁹
โดยทั้งสามโรคนี้ติดต่อโดยละอองจากการหายใจ การจาม การสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อโดยตรง²⁰⁻²²
7 วิธีดูแล และป้องกันโรคติดเชื้อ²³
1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ 2. เลี่ยงสัมผัสใบหน้า ดวงตา จมูก หรือปาก 3. รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล 4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 5. พักผ่อนเพียงพอ 6. หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด 7. ล้างมือบ่อยๆ
แม้ว่าจะเข้าสู่โหมดวัย 50+ แต่สุขภาพก็สามารถแข็งแรงตามวัยได้หากใส่ใจดูแลสุขภาพอยู่เสมอ การรู้เท่าทันและรู้จักวิธีป้องกันจะช่วยยับยั้งการเกิดโรคได้ เพียงเท่านี้ก็ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงได้แล้ว เพื่อชีวิตสุขเสรีที่มีคุณภาพไปอีกนาน
โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม
เรียบเรียงโดย : จีเอสเค
เอกสารอ้างอิง 1. โรงพยาบาลนครธน. (ม.ป.ป.). 7 โรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ที่ต้องเฝ้าระวัง. สืบค้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2025 จาก, https://www.nakornthon.com/article/detail/7-โรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุที่ต้องเฝ้าระวัง 2. RAMA channel. (2024, สิงหาคม 7). ไข้หวัดใหญ่ ไม่ใช่หน้าฝน ก็ต้องระวัง !. สืบค้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2025, จาก https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/โรคไข้หวัดใหญ่-ไม่ใช่หน/ 3. กรมควบคุมโรค. (ม.ป.ป.). ไข้หวัดใหญ่ (Influenza, Flu). สืบค้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2025, จาก https://ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=13 4. Harpaz, R., et al. (2008). Prevention of Herpes Zoster Recommendations of the Advisory Committee on Immunization Practices (ACIP). MMWR, 57, 1-40. 5. Erskine, N., et al. (2017). A systematic review and meta-analysis on herpes zoster and the risk of cardiac and cerebrovascular events. PLoS One, 12, 1-18. 6. CDC. (2025, August 18). Clinical Overview of RSV. Retrieved November 13, 2025, from https://www.cdc.gov/rsv/hcp/clinical-overview/index.html 7. Thongpan I. et al. (2020). Respiratory syncytial virus infection trend is associated with meteorological factors. Scientific Reports, 10, 10931. 8. กรมควบคุมโรค. (ม.ป.ป.). โรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (Respiratory Syncytial Virus). สืบค้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2025, จาก https://ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=131 9. Chuaychoo, B., et al. (2021). Characteristics, complications, and mortality of respiratory syncytial virus compared with influenza infections in hospitalized adult patients in Thailand. The International Journal of Infectious Diseases, 110, 237–246. 10. CDC. (2024, February 6). Clinical Overview of Pneumococcal Disease. Retrieved November 13, 2025, from https://www.cdc.gov/pneumococcal/hcp/clinical-overview/index.html 11. CDC. (2024, February 6). Clinical Features of Pneumococcal Disease. Retrieved November 13, 2025, from https://www.cdc.gov/pneumococcal/hcp/clinical-signs/index.html 12. CDC. (2025, May 12). Clinical Features of Diphtheria. Retrieved November 13, 2025, from https://www.cdc.gov/diphtheria/hcp/clinical-signs/index.html 13. CDC. (2025, May 30). About Tetanus. Retrieved November 13, 2025, from https://www.cdc.gov/tetanus/about/index.html 14. CDC. (2025, June 10). Clinical Features of Diphtheria. Retrieved November 13, 2025, from https://www.cdc.gov/tetanus/hcp/clinical-overview/index.html 15. CDC. (2025, April 2). Symptoms of Whooping Cough. Retrieved November 13, 2025, from https://www.cdc.gov/pertussis/signs-symptoms/index.html 16. WHO. (2025, July 23). Hepatitis B. Retrieved November 13, 2025, from https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/hepatitis-b 17. CDC. (2024, May 9). Measles Symptoms and Complications. Retrieved November 13, 2025, from https://www.cdc.gov/measles/signs-symptoms/index.html 18. CDC. (2024, June 5). Mumps Symptoms and Complications. Retrieved November 13, 2025, from https://www.cdc.gov/mumps/signs-symptoms/index.html 19. CDC. (2024, January 17) Rubella Symptoms and Complications. Retrieved November 13, 2025, from https://www.cdc.gov/rubella/signs-symptoms/index.html 20. CDC. (2024, May 29). About Measles. Retrieved November 13, 2025, from https://www.cdc.gov/measles/about/index.html 21. CDC. (2025, July 11). About Mump. Retrieved November 13, 2025, from https://www.cdc.gov/mumps/about/index.html 22. CDC. (2024, June 5). About Rubella. Retrieved November 13, 2025, from https://www.cdc.gov/rubella/about/index.html 23. 10 วิธีดูแลตัวเองเพื่อ ป้องกัน ไวรัส – โรงพยาบาลธนบุรี from: https://www.thonburihospital.com/10-ways-to-take-care-of-yourself-to-prevent-viruses/ (Access Nov 2025) 24. Marra F;Open Forum Infectious Diseases;2020;7;609 25. Chung WS;Medicine;2016;95;1-6 26. รู้จักโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) อาการ การรักษา และการป้องกัน | โรงพยาบาลพระรามเก้า from: https://praram9.com/th/articles/influenza (Access Nov 2025)
Non-Promotional Material NP-TH-HZU-WCNT-250010 | Nov 2025