line
เมนู
รู้แล้วยัง

ชวนสูงวัยสังเกต อาการโรค RSV vs ไข้หวัดใหญ่ ต่างกันอย่างไร

แชร์บทความนี้
line
line
line

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หนึ่งในไวรัสที่เริ่มได้รับความสนใจในวงการแพทย์มากขึ้นคือ ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) หลายคนอาจคุ้นเคยว่าเป็นโรคที่มักพบใน “เด็กเล็ก” แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนวัย 50 ปีขึ้นไปก็มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวร่วมด้วย ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความรุนแรงของอาการหากติดเชื้อ RSV¹

โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงวัย ซึ่งเป็นวัยที่ระบบภูมิคุ้มกันเริ่มทำงานได้ลดลง³ และมักมีโรคประจำตัวร่วมอยู่ด้วย ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา มีการประมาณว่าโรคติดเชื้อไวรัส RSV เป็นสาเหตุที่คร่าชีวิตผู้สูงวัยกว่า 33,000 ราย⁴ รวมทั้งมีค่ารักษาพยาบาลโดยรวมต่อครั้งสูงถึง 70,000 บาท5* และในหลายกรณีมีอาการทับซ้อนกับ ไข้หวัดใหญ่ จึงไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่ต้น

ไข้หวัดใหญ่ vs RSV อาการคล้ายกันแต่มีข้อแตกต่าง

ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคพบว่า ลักษณะอาการของไข้หวัดใหญ่จะมีลักษณะ⁹

  • มีไข้สูงเฉียบพลัน (มากกว่า 38°C)
  • ปวดศีรษะ
  • หนาวสั่น
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • อ่อนเพลียมาก
  • อาจพบอาการคัดจมูก เจ็บคอ

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์

อาการของโรคติดเชื้อ RSV⁷˒¹⁰

  • หายใจมีเสียงดังหรือมีเสียงหวีด
  • มีไข้
  • ไอ
  • เจ็บคอ
  • หายใจลำบาก
  • จาม

จะสังเกตว่า อาการเริ่มต้นอาจคล้ายกัน แต่โรคปอดอักเสบจากไวรัส RSV ไม่ใช่ “ไข้หวัดใหญ่”⁶ เมื่อติดเชื้อไวรัส RSV มีแนวโน้ม ลุกลามลงสู่ปอด ทำให้เกิดภาวะ “ปอดอักเสบ”⁸ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ภูมิคุ้มกันลดลง³ การแยกความแตกต่างของโรคทั้งสองจากการสังเกตอาการอาจทำได้ยาก เพราะอาการทับซ้อนกัน จึงต้องวินิจฉัยโดยแพทย์เพื่อยืนยันว่าว่าเป็นโรคติดเชื้อไวรัส RSV⁶

รู้ทันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส RSV

โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจทั้งส่วนบน (หลอดลม) และส่วนล่าง (ปอด) เป็นโรคติดต่อผ่านการหายใจเอาละอองสารคัดหลั่งของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ RSV เข้าสู่ร่างกาย เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือจากการสัมผัสสิ่งของที่มีสารคัดหลั่งของผู้ป่วย⁶˒⁷ เช่น มือจับประตู¹⁰ โดยวัย 50 ปีขึ้นไป จะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อและเกิดอาการรุนแรงได้มากกว่า¹

เชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายได้ตลอดปี แต่มักพบระบาดในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอยู่รอดของเชื้อไวรัส เช่น ในเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน⁸

กลุ่มที่มีความเสี่ยงรุนแรงเป็นพิเศษ ได้แก่¹

  • ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคไต เบาหวาน และโรคอ้วน
  • ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่ได้รับยาเคมีบำบัด หรือใช้ยากดภูมิ

แม้ปัจจุบันจะยังไม่มียารักษาโรค RSV โดยเฉพาะ แต่สามารถป้องกันได้⁷

ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลจากโรคปอดอักเสบจากไวรัส RSV¹⁰˒¹¹

  • หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสะอาดและสบู่
  • เว้นระยะห่างจากผู้ติดเชื้อ RSV
  • สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน
  • ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำมาก ๆ
  • รับวัคซีนป้องกันเป็นอีกทางเลือก เพื่อลดความรุนแรงหากมีการติดเชื้อ¹²⁻¹⁴
    • ปัจจุบันมีวัคซีนสำหรับ RSV แล้ว 2 ชนิด ทั้งแบบมีและไม่มีสารเสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งสามารถป้องกันได้ทั้งสายพันธุ์ A และ B ครอบคลุมทุกสายพันธุ์ที่พบการระบาดในปัจจุบัน¹²⁻¹⁴

      ป้องกันก่อนสายเกินไป วัย 50+ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว โปรดปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคไวรัส RSV เรื่องแนวทางการรักษา การป้องกัน และวัคซีนป้องกัน

      *ค่ามัธยฐาน

      เรียบเรียงโดย : จีเอสเค

      เอกสารอ้างอิง
      1. CDC. (2025, August 18). Clinical Overview of RSV. Retrieved October 20, 2025, from https://www.cdc.gov/rsv/hcp/clinical-overview/index.html
      2. Falsey, A.R., et al. (2006). Viral pneumonia in older adults. Clinical Infectious Diseases, 42(4), 518-524.
      3. Xu, W., et al. (2020). The untwining of immunosenescence and aging. Seminars in Immunopathology, 42(5), 559-572.
      4. Savic, M., et al. (2023). Respiratory syncytial virus disease burden in adults aged 60 years and older in high-income countries: A systematic literature review and meta-analysis. Influenza Other Respiratory Viruses, 17(1), e13031.
      5. Khaing, W.,et al. (2024). Real-World Assessment of Economic and Clinical Outcomes in Thai Patients With Respiratory Syncytial Virus Infection Across Age Groups: A Retrospective Cohort Analysis. Influenza and other respiratory viruses, 18(11), e70039.
      6. Kaler, J., et al. (2023). Respiratory Syncytial Virus: A Comprehensive Review of Transmission, Pathophysiology, and Manifestation. Cureus, 15(3), e36342.
      7. Nam ,H.H., et al. (2019). Respiratory syncytial virus infection in adults. BMJ, 366, l5021.
      8. Chuaychoo, B., et al. (2021). Characteristics, complications, and mortality of respiratory syncytial virus compared with influenza infections in hospitalized adult patients in Thailand. The International Journal of Infectious Diseases, 110, 237–246.
      9. กรมควบคุมโรค. (ม.ป.ป.). ไข้หวัดใหญ่ (Influenza, Flu). สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม, 2025, จาก https://ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=13
      10. กรมควบคุมโรค. (ม.ป.ป.). โรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (Respiratory Syncytial Virus). สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม, 2025, จาก https://ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=131
      11. CDC. (2025, July 8). How RSV Spreads. Retrieved October 20, 2025, from https://www.cdc.gov/rsv/causes/index.html
      12. Papi, A., et al. (2023). Respiratory Syncytial Virus Prefusion F Protein Vaccine in Older Adults. The New England journal of medicine, 388(7), 595-608. 
      13. Ison MG et al. (2024). Efficacy and Safety of Respiratory Syncytial Virus (RSV) Prefusion F Protein Vaccine (RSVPreF3 OA) in Older Adults Over 2 RSV Seasons. Clinical Infectious Diseases, 78(6), 1732-44. 
      14. Walsh EE et al. (2023). Efficacy and Safety of a Bivalent RSV Prefusion F Vaccine in Older Adults. The New England journal of medicine, 388(16), 1465-77. 

      Non-Promotional Material
      NP-TH-RS-WCNT-250004 | Oct 2025

GSK ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของท่านและเราให้คำมั่นสัญญาว่าเราจะจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยความระมัดระวัง
หากท่านต้องการทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บ และวิธีการที่เราเก็บข้อมูลเหล่านั้น ท่านสามารถศึกษาได้จาก ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว