การเริ่มต้นปีใหม่เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุอย่างเรา ๆ ได้ทบทวนไตร่ตรองและเริ่มต้นเป้าหมายใหม่ เมื่อก้าวเข้าสู่วัย 50 ปีขึ้นไป สุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุจะมีความสำคัญมากขึ้น เราอาจต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย การเสื่อมของสมรรถภาพ หรือการเกิดโรคต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อคุณภาพ การกำหนดปณิธานใหม่สำหรับปีใหม่ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความเป็นอยู่จึงเป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุทุก ๆ คนควรทำ เพื่อให้ได้รับแนวทางในการกำหนดเป้าหมายใหม่สำหรับปีใหม่ที่นำไปสู่ความสุขและสุขภาพดี ทั้งนี้ การตั้งปณิธานด้านสุขภาพและความเป็นอยู่แบบองค์รวมสำหรับผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไปและผู้สูงอายุ มีดังนี้
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: ผู้สูงอายุควรวางแผนให้มีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสมตามความสามารถ เช่น เดิน โยคะ หรือการว่ายน้ำ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นและเพื่อความเรียบง่ายในชีวิตประจำวัน
รับประทานอาหารที่สมดุล: การกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักผลไม้ อาหารที่มีโปรตีนและไขมันที่ดีต่อสุขภาพ คือคีย์เวิร์ดสำคัญในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ สิ่งสำคัญที่ควรทำควบคู่กันไปคือลดการบริโภคอาหารไม่ดีต่อสุขภาพ
ดูแลสุขภาพจิต: การฝึกโยคะหรือการทำสมาธิคือกิจกรรมสุดผ่อนคลายสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อลดความเครียดและส่งเสริมคุณภาพสุขภาพจิต เมื่อผู้สูงอายุปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ความสุขความสงบจะตามมาเป็นโบนัสอย่างแน่นอน
ตรวจสุขภาพประจำปี: ผู้สูงอายุควรตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อตรวจหาโรคและความผิดปกติทางร่างกายที่เกิดขึ้นและรักษาตัวได้อย่างทันท่วงที และรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมกับตนเอง
เลิกสูบบุหรี่หรือลดการดื่มสุรา: มุ่งมั่นที่จะลดอันตรายต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่หรือการดื่มสุราให้น้อยลง เป็นหนึ่งในปณิธานปีใหม่สำหรับผู้สูงอายุที่ท้าทายตัวเองไม่น้อย
เพิ่มการติดต่อทางสังคม: ร่วมแชร์ช่วงเวลาที่ดีกับคนรอบข้าง หรือเข้าร่วมกิจกรรมสังคม เพื่อสร้างความสุขและความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
การหาความสุขในชีวิตประจำวัน: ผู้สูงอายุควรพักผ่อนอย่างเพียงพอ มีเวลาส่วนตัวและทำสิ่งที่ทำให้รู้สึกสดชื่นและมีความสุขทุกวัน
การจัดที่พักและความเป็นอยู่ให้เรียบร้อยและปลอดภัย: ผู้สูงอายุควรใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม หรือให้ความสำคัญกับการจัดการความปลอดภัยในบ้าน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด
สำหรับแนวทางการตั้งเป้าหมายเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในปีใหม่ ผู้สูงอายุสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยใช้เทคนิค SMART ที่มีดังนี้:
1. Specific (โดยเฉพาะ): ผู้สูงอายุควรตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง เช่น "ออกกำลังกายเพิ่มขึ้น โดยการวิ่ง 5 กิโลเมตรต่อสัปดาห์" เพื่อให้เป้าหมายเป็นไปตามที่ผู้สูงอายุต้องการและมีทิศทางในการดำเนินการอย่างชัดเจน
2. Measurable (ที่มีวิธีการวัดได้): เป้าหมายควรสามารถวัดผลได้ เช่น "ลดน้ำหนัก 3 กิโลกรัมภายใน 2 เดือน" เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถติดตามและวัดผลการปฏิบัติตามเป้าหมายได้
3. Achievable (ที่เป็นไปได้): เป้าหมายของผู้สูงอายุนั้นควรเป็นเรื่องที่สามารถทำได้จริง โดยพิจารณาความสามารถและสถานะปัจจุบัน เช่น "ออกกำลังกายเพิ่มขึ้นทุกวันเป็นเวลา 30 นาที" เพื่อให้เป้าหมายเป็นไปตามความสามารถของตนเอง
4. Relevant (ที่เกี่ยวข้อง): เป้าหมายควรเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงสุขภาพและความเป็นอยู่ ตรงกับความต้องการและความสนใจของผู้สูงอายุ เช่น "เพิ่มการกินผักและผลไม้ในอาหารทุกมื้อ" เพื่อให้การตั้งเป้าหมายของผู้สูงอายุมีความหมายและสอดคล้องกับการดูแลสุขภาพ
5. Time-bound (มีเวลากำหนด): การตั้งเป้าหมายของผู้สูงอายุควรมีเวลาที่กำหนดเสร็จสิ้น เช่น "ลดน้ำหนัก 3 กิโลกรัมภายใน 2 เดือน" เพื่อให้มีการวัดผลและกำหนดเวลาในการดำเนินการที่ชัดเจน
ทั้งนี้ การใช้เทคนิค SMART เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการตั้งเป้าหมายที่ต้องการ ช่วยให้การตั้งเป้าหมายของผู้สูงอายุเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีในปีใหม่ โดยรวมนั้น การเริ่มต้นปีใหม่เป็นโอกาสที่ดีเพื่อชีวิตที่มีคุณภาพและเพิ่มความน่าพึงพอใจยิ่งขึ้นให้กับผู้สูงอายุ ชาว Gen ยัง Active ทุก ๆ คน เพราะการส่งเสริมปณิธานที่เน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลักจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในผู้สูงอายุ อีกทั้งยังช่วยเน้นย้ำว่าการแสวงหาสุขภาพที่ดีขึ้นสำหรับผู้สูงอายุนั้นเป็นกระบวนการต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้ความมุ่งมั่น ความยืดหยุ่น และทัศนคติเชิงบวกในการปั้นชีวิตที่สดใสและสุขเสรีในวัย 50+
สวัสดีปีใหม่ครับ
เรียบเรียงโดย : รศ. นพ.สัมมน โฉมฉาย ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
NP-TH-NA-WCNT-230022