โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นโรคที่มักจะเกิดขึ้นในวัย 50+ เกิดจากการสะสมของตะกรันในหลอดเลือดแดง เมื่อหลอดเลือดอุดตัน ส่งผลให้เกิดภาวะเส้นเลือดตีบหรือตัน กล้ามเนื้อขาดเลือดไปเลี้ยง ทั้งหลอดเลือดหัวใจและสมอง จึงถือว่าเป็นโรคที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้
โรคหัวใจและหลอดเลือดมีเหตุปัจจัยหนึ่งมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยเฉพาะการกินอาหาร ดังนั้นการปรับรูปแบบการกิน และการใช้ชีวิตจึงมีความสำคัญ เพราะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดหัวใจและหลอดเลือดได้ โดยการเลือกกินอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจและหลอดเลือด จะเป็นกุญแจสำคัญนำไปสู่การมีสุขภาพดีห่างไกลโรคร้าย
อาหารบำรุงหัวใจและหลอดเลือด
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจมีส่วนในการช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ มาดูตัวอย่างอาหารบำรุงหัวใจที่เป็นทางเลือกที่ดีในการดูแลหัวใจวัย 50+ ให้แข็งแรงขึ้นกัน
อาหารประเภทปลา ที่มีกรดโอเมก้า 3 สูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคคอเรล ซึ่งกรดโอเมก้า 3 มีส่วนช่วยในการทำงานของหัวใจ ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ลดความดันโลหิต ลดการจับตัวของลิ่มเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง
ถั่วต่าง ๆ ถั่วเปลือกแข็ง เช่น ถั่วลิสง อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แนะนำให้กินถั่วอบ หลีกเลี่ยงถั่วทอด เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับน้ำมันเข้าไปในร่างกายที่มากเกินไป ทานประมาณ 1 กำมือต่อวันก็เพียงพอ
ธัญพืชต่าง ๆ เช่น ลูกเดือย งาดำ เมล็ดเจีย เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ซึ่งธัญพืชเหล่านี้จะอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารสูง มีทั้งวิตามิน แร่ธาตุ ไฟโตนิวเทรียนท์ เส้นใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ และมีไขมันดี ที่จะช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว ช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง
กระเทียม สมุนไพรที่มีติดครัวทุกบ้าน ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล และช่วยยับยั้งการจับตัวของเม็ดเลือดแดงที่จะไปอุดตันหลอดเลือดแดง
ชาเขียว สุดยอดเครื่องดื่มต้านอนุมูลอิสระ สารสำคัญในชาเขียวอย่างคาเทชินช่วยป้องกันโรคหัวใจได้หลายอย่าง เช่น ช่วยลดคอเลสเตอรอล และความดัน
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีสารแอนโทไซยานิน และสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดความดันโลหิตและขยายหลอดเลือดหัวใจได้ดี จึงช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
ผักหลากสี ผักมีแร่ธาตุ ไฟเบอร์ และสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย โดยผักสามารถแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม 5 สี แต่ละสีก็มีสารอาหารและคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันไป
ผักที่มีสีเขียว เช่น กะหล่ำปลีสีเขียว, บร็อกโคลี, คะน้า, หน่อไม้ฝรั่ง, อะโวคาโด, แตงกวา, ผักโขม, ถั่วลันเตา
ผักสีแดง เช่น มะเขือเทศ, กระหล่ำปลีแดง, พริกแดง, หอมแดง
ผักผลไม้สีม่วงและสีน้ำเงิน เช่น มะเขือม่วง, กะหล่ำปลีสีม่วง
ผักสีเหลืองและสีส้ม เช่น แครอท, ฟักทอง, มันเทศ, มันฝรั่งหวาน, พริกสีเหลือง
ผักสีขาว เช่น งาขาว, ขิง, กระเทียม, ผักกาดขาว, หัวไชเท้า, ดอกกะหล่ำ, ดอกแค, เห็ด
ผลไม้ที่มีรสชาติไม่หวานมาก ไม่ว่าจะเป็น ส้มเขียวหวาน ฝรั่ง กีวี แก้วมังกร กล้วย แอปเปิ้ล องุ่น มะละกอ สับปะรด เนื่องจากผลไม้เหล่านี้มีเส้นใยอาหาร วิตามินและแร่ธาตุสูง ช่วยบำรุงร่างกาย และช่วยลดไขมันในเลือด อีกทั้งปริมาณน้ำตาลก็ไม่สูงมาก
ดาร์กช็อกโกแลต ที่มีส่วนผสมของโกโก้อย่างน้อย 60-70% ถือเป็นอาหารบำรุงหัวใจที่ดี ในดาร์กช็อกโกแลตประกอบไปด้วย สารฟลาโวนอยด์ ชนิดที่เรียกว่า โพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในเรื่องของความดันโลหิต ลดปัจจัยที่ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด รวมถึงช่วยลดอาการหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองในคนที่มีความเสี่ยงสูงได้
โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นภาวะที่อันตราย และถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพื่อลดความเสี่ยงของโรค วัย 50+ ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและโรคอื่น ๆ ที่เป็นภาวะแทรกซ้อนอันตราย โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร หันมากินอาหารบำรุงหัวใจ หลีกเลี่ยงหรืองดอาหารที่จะก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคร้ายในอนาคต
เอกสารอ้างอิง: โรงพยาบาลพญาไท. (2567, กุมภาพันธ์, 1). กินอย่างไรให้หัวใจแข็งแรง. (2568, มิถุนายน, 19) https://www.phyathai.com/th/article/eating-well-for-a-healthy-heart-ptp?srsltid=AfmBOoq96NDCo3_hSFQBOzvnjXb9qqO0bkAgwOXHN7RiOnfeuzdp3a8u